Snack Box เมนูแนะนำ : ซอฟต์เค้กแบล็คฟอเรสต์

ซอฟต์เค้กแบล็คฟอเรสต์

ซอฟต์เค้กแบล็คฟอเรสต์

ซอฟต์เค้กแบล็คฟอเรสต์ (Black Forest Cake) เป็นเค้กช็อกโกแลตสปันจ์นุ่มๆ ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเชื่อมเชอร์รี่ สลับชั้นด้วยวิปปิ้งครีมและไส้เชอร์รี่ และตกแต่งด้วยเกล็ดช็อกโกแลต เป็นเค้กที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

 

สูตรซอฟต์เค้กแบล็คฟอเรสต์

ส่วนผสมสำหรับเนื้อเค้กช็อกโกแลตสปันจ์ (ขนาด 2 ปอนด์)

  • ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 4 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม (แบ่งเป็น 2 ส่วน: 60 กรัมสำหรับไข่แดง, 40 กรัมสำหรับไข่ขาว)
  • แป้งเค้ก 80 กรัม (ร่อน)
  • ผงโกโก้ 20 กรัม (ร่อน)
  • ผงฟู 1 ช้อนชา (ร่อน)
  • นมสดรสจืด 60 มิลลิลิตร
  • น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันพืชกลิ่นอ่อนๆ 40 มิลลิลิตร
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • เกลือ ¼ ช้อนชา

ส่วนผสมสำหรับไส้เชอร์รี่

  • เชอร์รี่ในน้ำเชื่อม (แบบกระป๋องหรือขวด) 200 กรัม (แยกน้ำเชื่อมเก็บไว้)
  • น้ำเชื่อมเชอร์รี่ (จากเชอร์รี่กระป๋อง) 50 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 2-3 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามความหวานที่ชอบ)
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ (ละลายในน้ำเปล่าเล็กน้อย)
  • เหล้าคีร์ช (Kirsch) หรือเหล้าเชอร์รี่ 1-2 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้)

ส่วนผสมสำหรับวิปปิ้งครีม

  • วิปปิ้งครีม (ชนิด Dairy fat 35% ขึ้นไป) 500 กรัม (แช่เย็นจัด)
  • น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม (ปรับตามความหวานที่ชอบ)
  • กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา

ส่วนผสมสำหรับตกแต่ง

  • ดาร์กช็อกโกแลต สำหรับขูดเป็นเกล็ด หรือช็อกโกแลตบาร์แบบแท่ง
  • เชอร์รี่สด หรือเชอร์รี่ในน้ำเชื่อมสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

  1. ทำเนื้อเค้กช็อกโกแลตสปันจ์
  1. เตรียมพิมพ์: ทาเนยขาวหรือรองด้วยกระดาษไขที่ก้นพิมพ์เค้กกลมขนาด 2 ปอนด์ (ประมาณ 7-8 นิ้ว) ไม่ต้องทาด้านข้างพิมพ์
  2. ร่อนส่วนผสมแห้ง: ร่อนแป้งเค้ก ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือรวมกัน พักไว้
  3. ตีไข่แดง: ในอีกชามหนึ่ง ใส่ไข่แดง น้ำตาลทราย (60 กรัม) กลิ่นวานิลลา นมสด และน้ำมันรำข้าว คนผสมให้เข้ากันดี
  4. ผสมส่วนผสมแห้งกับส่วนผสมไข่แดง: ค่อยๆ แบ่งส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ใส่ลงในส่วนผสมไข่แดง คนตะล่อมเบาๆ จนเข้ากันดี พักไว้
  5. ตีไข่ขาว: ในชามผสมที่สะอาดและแห้งสนิท ใส่ไข่ขาว ตีด้วยเครื่องตีไข่ด้วยความเร็วปานกลาง พอเริ่มเป็นฟองหยาบๆ ค่อยๆ ทยอยใส่น้ำตาลทราย (40 กรัม) ทีละน้อย ตีต่อไปจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน (Soft Peak) หรือตั้งยอดกลาง (Medium Peak)
  6. ตะล่อมส่วนผสม: แบ่งไข่ขาวที่ตีไว้ 1/3 ส่วน ใส่ลงในส่วนผสมไข่แดงที่เตรียมไว้ ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ ใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไปจนหมด ตะล่อมเบาๆ ด้วยไม้พายยางจนส่วนผสมเข้ากันดี ระวังอย่าคนนานเกินไป เพราะจะทำให้เค้กเนื้อแน่น
  7. อบเค้ก: เทส่วนผสมเค้กลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยหน้าให้เรียบ นำเข้าอบในเตาอบที่วอร์มไว้ที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที หรือจนกระทั่งไม้จิ้มฟันที่เสียบลงไปตรงกลางเค้กออกมาสะอาด
  8. พักเค้ก: เมื่อเค้กสุก นำออกจากเตาอบ คว่ำพิมพ์ลงบนตะแกรง พักให้เย็นสนิทก่อนนำมาตัด
  1. ทำไส้เชอร์รี่
  1. กรองเชอร์รี่: แยกเนื้อเชอร์รี่ออกจากน้ำเชื่อม พักไว้
  2. ทำซอสเชอร์รี่: ในหม้อขนาดเล็ก ใส่น้ำเชื่อมเชอร์รี่ น้ำตาลทราย และเหล้าคีร์ช (ถ้าใช้) คนผสมให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟกลางจนเดือด
  3. เพิ่มความข้น: ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำไว้ลงไป คนตลอดเวลาจนส่วนผสมข้นขึ้นและใสขึ้น
  4. ผสมเนื้อเชอร์รี่: ปิดไฟ ใส่เนื้อเชอร์รี่ที่กรองไว้ลงไป คนให้เข้ากัน พักให้เย็นสนิท
  1. ตีวิปปิ้งครีม
  1. แช่ชามและหัวตี: แช่ชามผสมและหัวตีในตู้เย็นประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้วิปปิ้งครีมตีขึ้นง่ายและคงตัว
  2. ตีวิปปิ้งครีม: ใส่วิปปิ้งครีม น้ำตาลไอซิ่ง และกลิ่นวานิลลาลงในชามที่แช่เย็น ตีด้วยความเร็วปานกลางจนกระทั่งวิปปิ้งครีมตั้งยอดแข็ง (Stiff Peak) ระวังอย่าตีนานเกินไป เพราะวิปปิ้งครีมจะแยกชั้น
  1. ประกอบเค้ก
  1. หั่นเค้ก: เมื่อเค้กเย็นสนิทแล้ว ใช้มีดฟันเลื่อยหรือด้ายหั่นเค้ก แบ่งเนื้อเค้กออกเป็น 2-3 ชั้นเท่าๆ กัน
  2. ชุบน้ำเชื่อม: วางเค้กชั้นแรกลงบนจานหรือฐานรองเค้ก ใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อมเชอร์รี่ (จากกระป๋อง/ขวดเชอร์รี่) ทาให้ทั่วเนื้อเค้ก เพื่อเพิ่มความชุ่มฉ่ำ
  3. ทาครีมและไส้: ปาดวิปปิ้งครีมลงบนเค้กชั้นแรก เกลี่ยให้ทั่ว ตักไส้เชอร์รี่ที่เย็นแล้วมาวางและเกลี่ยให้ทั่ว (เว้นขอบเล็กน้อย)
  4. ทำซ้ำ: วางเค้กชั้นที่สองทับลงไป ทำซ้ำขั้นตอนชุบน้ำเชื่อมและปาดครีม/ไส้
  5. ชั้นสุดท้าย: วางเค้กชั้นสุดท้ายทับลงไป ปาดวิปปิ้งครีมให้ทั่วทั้งด้านบนและด้านข้างของเค้ก พยายามเกลี่ยให้เรียบ
  6. ตกแต่ง:
    • เกล็ดช็อกโกแลต: ใช้มีดหรือที่ขูดชีส ขูดดาร์กช็อกโกแลตให้เป็นเกล็ด นำมาแปะที่ด้านข้างและโรยบนหน้าเค้ก
    • เชอร์รี่: ตกแต่งด้วยเชอร์รี่สดหรือเชอร์รี่ในน้ำเชื่อม
  7. แช่เย็น: นำเค้กไปแช่ในตู้เย็นอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เค้กเซ็ตตัวและรสชาติเข้ากันดี

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • คุณภาพวัตถุดิบ: การใช้วัตถุดิบที่ดีมีผลต่อรสชาติของเค้ก โดยเฉพาะผงโกโก้และช็อกโกแลต
  • อุณหภูมิห้อง: ไข่ไก่ควรเป็นอุณหภูมิห้องเพื่อให้ตีขึ้นฟูได้ดี
  • การร่อนแป้ง: การร่อนแป้งและผงโกโก้ช่วยให้เค้กมีเนื้อเบาและเนียน
  • อย่า Overmix: เมื่อผสมส่วนผสมแห้งกับส่วนผสมเปียก หรือเมื่อตะล่อมไข่ขาว ควรคนเบาๆ และเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เค้กเนื้อแน่น
  • ความเย็นของวิปปิ้งครีม: วิปปิ้งครีมและอุปกรณ์ที่ใช้ตีวิปปิ้งครีมต้องเย็นจัด จะช่วยให้วิปปิ้งครีมขึ้นฟูและคงตัวได้ดี

ขอให้สนุกกับการทำซอฟต์เค้กแบล็คฟอเรสต์ของคุณนะคะ!

How to Order วิธีสั่ง Snack Box ขนมจัดเบรค กับ Delicake

🚚 จัดส่งตรงเวลา เริ่มจัดส่ง 6โมงเช้าทุกวัน! (ไม่มีวันหยุด)
💳 ชำระได้ทั้ง เงินสด บัตรเครดิต – ออกใบกำกับภาษีได้
👩‍💼 ลูกค้ากลุ่มบริษัท สั่งประจำ – วางบิล เครดิตได้
🥐 วัตถุดิบและการผลิต สะอาด ปลอดภัย GMP
🧕🏼 โรงงานได้รับมาตรฐาน ฮาลาล #อิสลาม ทานได้
💖 มั่นใจด้วยลูกค้าของเรากว่า 50,000 ราย
🕑 สั่งได้เลย ตลอด 24 ชั่วโมง
…ไม่ว่างานจะเริ่มเช้าแค่ไหน จะงานเล็ก งานใหญ่
แค่ไหนก็หายห่วง…
📍Delicake ✅สะอาด ✅ปลอดภัย ✅ถูกหลักอนามัย
ได้รับมาตรฐาน จาก GMP
📍บริการจัดส่ง (กรุงเทพ-ปริมณฑล)
📍มีเมนูเบเกอรี่ให้เลือกกว่า 300 เมนู
…………………………….
Delicake ส่งต่อความอร่อยในทุกช่วงเวลาสำคัญ
…………………………….
สะดวก ส่งไว สั่งได้ 24 ชม.

Line : @delicake

👩🏻‍🍳Inbox : m.me/thailanddelicake

ลูกค้าสนใจสั่งชุดจัดเบรค กับเรา ง่ายๆ เพียงแค่ฝากข้อมูลติดต่อของท่านพร้อมรายละเอียดเบเกอรี่ที่ท่านต้องการสั่ง
และสามารถกรอกข้อมูลที่จัดส่งไว้เลยเพื่อความรวดเร็วในการสั่งซื้อกรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องยิ่งข้อมูลละเอียดและครบถ้วน
ยิ่งทำให้ทางเราสามารถดำเนินการจัดทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
Delicake จะติดต่อกลับไปเพื่อยืนยันการสั่งซื้อของท่านภายใน 24 ชั่วโมงและเตรียมการจัดส่งในวันต่อไปทันทีค่ะ
Line : @delicake (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)
Line : @delicake

Line : @delicake

Related Posts