Snack Box เมนูแนะนำ : ซอฟต์เค้กไวท์ฟอเรสต์

ไวท์ฟอเรสต์ซอฟต์เค้ก (White Forest Soft Cake) เป็นเค้กที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบล็คฟอเรสต์เค้ก แต่เปลี่ยนจากเค้กช็อกโกแลตเข้มข้นมาเป็นเค้กวานิลลาหรือเค้กสีขาวเนื้อนุ่มแทน และใช้ไวท์ช็อกโกแลตแทนดาร์กช็อกโกแลตค่ะ ส่วนประกอบหลักๆ ก็ยังคงมีเชอร์รี่และวิปปิ้งครีมเหมือนเดิม

นี่คือสูตรสำหรับทำซอฟต์เค้กไวท์ฟอเรสต์ที่น่าสนใจค่ะ โดยจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ ตัวเค้ก, ซอสเชอร์รี่, และ วิปปิ้งครีม ค่ะ

ส่วนผสมตัวเค้กวานิลลา (Soft Vanilla Cake)

ส่วนผสมของแห้ง:

  • แป้งเค้ก: 2 3/4 ถ้วยตวง (ประมาณ 357 กรัม)
  • ผงฟู: 2 ช้อนชา
  • เกลือ: 3/4 ช้อนชา

ส่วนผสมของเปียก:

  • เนยจืด (อุณหภูมิห้อง): 1 ถ้วยตวง (227 กรัม)
  • น้ำตาลทราย: 2 1/2 ถ้วยตวง (500 กรัม)
  • กลิ่นวานิลลา: 2 ช้อนชา
  • ไข่ขาว (อุณหภูมิห้อง): 5 ฟองใหญ่
  • นมสด (อุณหภูมิห้อง): 1 ถ้วยตวง (245 กรัม)

วิธีทำตัวเค้ก:

  1. เตรียมอุปกรณ์: วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175-180 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์เค้กกลมขนาด 8 นิ้ว 2 พิมพ์ หรือขนาดที่ต้องการ ทาเนยขาวรองด้วยกระดาษไขที่ก้นพิมพ์
  2. ร่อนส่วนผสมแห้ง: ในชามขนาดกลาง ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือเข้าด้วยกัน พักไว้
  3. ตีเนยกับน้ำตาล: ในอ่างผสมขนาดใหญ่ ใช้เครื่องตีไฟฟ้าตีเนยจืดที่อุณหภูมิห้องให้นุ่มฟู จากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีจนเข้ากันดีและเนยมีสีอ่อนลง
  4. ใส่กลิ่นวานิลลา: เติมกลิ่นวานิลลาลงไป ตีให้เข้ากัน
  5. ทยอยใส่ไข่ขาว: ค่อยๆ ทยอยใส่ไข่ขาวลงไปทีละฟอง ตีให้เข้ากันดีทุกครั้ง
  6. สลับใส่ส่วนผสมแห้งและนม: แบ่งส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้เป็น 3 ส่วน และนมเป็น 2 ส่วน โดยเริ่มจากใส่ส่วนผสมแป้งส่วนแรกลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำพอเข้ากัน (อย่าตีนานเกินไป) ตามด้วยนมส่วนแรก ตามด้วยแป้งส่วนที่สอง นมส่วนที่สอง และปิดท้ายด้วยแป้งส่วนสุดท้าย ตีจนเข้ากันดี
  7. อบเค้ก: แบ่งส่วนผสมเค้กใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้เท่าๆ กัน นำเข้าอบประมาณ 25-35 นาที หรือจนกว่าจะทดสอบโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปแล้วไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมา
  8. พักเค้ก: เมื่อเค้กสุก นำออกจากเตา พักในพิมพ์ประมาณ 10 นาที จากนั้นคว่ำเค้กออกจากพิมพ์ วางบนตะแกรงพักให้เย็นสนิท

 

ซอสเชอร์รี่ (Cherry Filling)

  • เชอร์รี่สด หรือเชอร์รี่แช่แข็ง (ไม่มีเมล็ด): 2 ถ้วยตวง (ประมาณ 340-400 กรัม)
  • น้ำตาลทราย: 1/4 – 1/2 ถ้วยตวง (ปรับตามความชอบ)
  • น้ำเลมอน (หรือน้ำมะนาว): 1 ช้อนโต๊ะ (ช่วยเพิ่มรสชาติและความสดชื่น)
  • แป้งข้าวโพด: 1-2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำให้ซอสข้น)
  • น้ำเปล่า (สำหรับละลายแป้งข้าวโพด): 2 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้า Kirsch (คีร์ช) หรือบรั่นดี (ถ้ามี): 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำซอสเชอร์รี่:

  1. ตั้งหม้อ: นำเชอร์รี่ น้ำตาลทราย และน้ำเลมอนใส่หม้อ ตั้งไฟกลาง
  2. เคี่ยว: เคี่ยวจนเชอร์รี่เริ่มนิ่มและน้ำตาลละลาย อาจจะบดเชอร์รี่ให้แตกเล็กน้อย
  3. ละลายแป้งข้าวโพด: ผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน ไม่มีเม็ด
  4. ใส่แป้งข้าวโพด: เมื่อซอสเชอร์รี่เริ่มเดือด ค่อยๆ เทส่วนผสมแป้งข้าวโพดลงไป คนตลอดเวลาจนซอสข้นขึ้น
  5. เพิ่ม Kirsch (ถ้าใช้): ถ้าใช้ Kirsch ให้ใส่ลงไปตอนนี้ คนให้เข้ากันแล้วปิดไฟ
  6. พักให้เย็น: พักซอสเชอร์รี่ให้เย็นสนิทก่อนนำไปใช้

 

วิปปิ้งครีม (Stabilized Whipped Cream)

  • เฮฟวี่ครีม (Heavy Whipping Cream) หรือ วิปปิ้งครีมไขมัน 35% ขึ้นไป (แช่เย็นจัด): 2 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลไอซิ่ง: 1/3 ถ้วยตวง (ปรับตามความชอบ)
  • กลิ่นวานิลลา: 1 ช้อนชา
  • ผงเจลาติน: 1 ช้อนชา
  • น้ำเย็นจัด: 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำวิปปิ้งครีม:

  1. เตรียมเจลาติน: โรยผงเจลาตินลงบนน้ำเย็นจัด พักทิ้งไว้ 5 นาทีให้เจลาตินดูดน้ำและพองตัว
  2. ละลายเจลาติน: นำถ้วยเจลาตินไปวางในน้ำร้อน (ไม่ใช่บนไฟโดยตรง) หรือนำเข้าไมโครเวฟประมาณ 10-15 วินาที คนให้เจลาตินละลายหมด พักให้เย็นลงแต่ไม่จับตัวเป็นก้อน
  3. ตีวิปปิ้งครีม: ในอ่างผสมขนาดใหญ่ที่เย็นจัด (สามารถแช่อ่างและหัวตีในตู้เย็นก่อนได้) เทเฮฟวี่ครีมที่เย็นจัดลงไป
  4. เริ่มตี: เริ่มตีด้วยความเร็วปานกลางจนครีมเริ่มข้น
  5. ใส่น้ำตาลและวานิลลา: ค่อยๆ ทยอยใส่น้ำตาลไอซิ่งและกลิ่นวานิลลาลงไป ตีต่อ
  6. ใส่เจลาติน: ขณะที่กำลังตีวิปปิ้งครีม ให้ค่อยๆ รินเจลาตินที่ละลายและเย็นแล้วลงไป ตีต่อด้วยความเร็วสูงจนวิปปิ้งครีมตั้งยอดแข็ง (Stiff Peaks) แต่ระวังอย่าตีมากเกินไปจนครีมจับตัวเป็นก้อน

การประกอบเค้ก (Assembly)

  1. ตัดเค้ก: หากเค้กมีโดมด้านบน ให้ตัดส่วนเกินออกให้เรียบเสมอกัน และถ้าต้องการเค้กหลายชั้น สามารถแบ่งเค้กแต่ละก้อนเป็น 2 ชั้นได้
  2. วางชั้นแรก: วางเค้กชั้นแรกลงบนจานหรือฐานเค้ก
  3. บีบครีมกั้น: บีบวิปปิ้งครีมเป็นวงกลมรอบขอบเค้ก เพื่อกั้นไม่ให้ซอสเชอร์รี่ไหลออกมา
  4. ใส่ซอสเชอร์รี่: ตักซอสเชอร์รี่ที่เย็นแล้วใส่ตรงกลาง
  5. วางชั้นต่อไป: วางเค้กชั้นที่สองทับลงไป
  6. ปาดวิปปิ้งครีม: ปาดวิปปิ้งครีมให้ทั่วเค้กและด้านข้าง
  7. ตกแต่ง:
    • ไวท์ช็อกโกแลตขูด: ใช้มีดหรือที่ขูดผักขูดไวท์ช็อกโกแลตเป็นเส้นๆ หรือแผ่นบางๆ โรยให้ทั่วเค้ก
    • เชอร์รี่สด: ตกแต่งด้วยเชอร์รี่สดด้านบน
    • วิปปิ้งครีม: อาจจะบีบวิปปิ้งครีมเป็นช่อๆ รอบเค้กด้านบนด้วยหัวบีบรูปดาว

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • คุณภาพวัตถุดิบ: การใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจะส่งผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัสของเค้กโดยตรง
  • อุณหภูมิวัตถุดิบ: ควรให้ไข่ เนย และนมมีอุณหภูมิห้องตามที่ระบุ เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี
  • การตีวิปปิ้งครีม: ควรใช้อ่างและหัวตีที่เย็นจัด และระวังอย่าตีวิปปิ้งครีมมากเกินไป เพราะจะทำให้ครีมแยกตัวและไม่เนียน
  • พักเค้ก: หลังจากประกอบเค้กแล้ว ควรแช่เย็นอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้เค้กเซ็ตตัวและรสชาติเข้ากัน

How to Order วิธีสั่ง Snack Box ขนมจัดเบรค กับ Delicake

🚚 จัดส่งตรงเวลา เริ่มจัดส่ง 6โมงเช้าทุกวัน! (ไม่มีวันหยุด)
💳 ชำระได้ทั้ง เงินสด บัตรเครดิต – ออกใบกำกับภาษีได้
👩‍💼 ลูกค้ากลุ่มบริษัท สั่งประจำ – วางบิล เครดิตได้
🥐 วัตถุดิบและการผลิต สะอาด ปลอดภัย GMP
🧕🏼 โรงงานได้รับมาตรฐาน ฮาลาล #อิสลาม ทานได้
💖 มั่นใจด้วยลูกค้าของเรากว่า 50,000 ราย
🕑 สั่งได้เลย ตลอด 24 ชั่วโมง
…ไม่ว่างานจะเริ่มเช้าแค่ไหน จะงานเล็ก งานใหญ่
แค่ไหนก็หายห่วง…
📍Delicake ✅สะอาด ✅ปลอดภัย ✅ถูกหลักอนามัย
ได้รับมาตรฐาน จาก GMP
📍บริการจัดส่ง (กรุงเทพ-ปริมณฑล)
📍มีเมนูเบเกอรี่ให้เลือกกว่า 300 เมนู
…………………………….
Delicake ส่งต่อความอร่อยในทุกช่วงเวลาสำคัญ
…………………………….
สะดวก ส่งไว สั่งได้ 24 ชม.

Line : @delicake

👩🏻‍🍳Inbox : m.me/thailanddelicake

ลูกค้าสนใจสั่งชุดจัดเบรค กับเรา ง่ายๆ เพียงแค่ฝากข้อมูลติดต่อของท่านพร้อมรายละเอียดเบเกอรี่ที่ท่านต้องการสั่ง
และสามารถกรอกข้อมูลที่จัดส่งไว้เลยเพื่อความรวดเร็วในการสั่งซื้อกรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องยิ่งข้อมูลละเอียดและครบถ้วน
ยิ่งทำให้ทางเราสามารถดำเนินการจัดทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
Delicake จะติดต่อกลับไปเพื่อยืนยันการสั่งซื้อของท่านภายใน 24 ชั่วโมงและเตรียมการจัดส่งในวันต่อไปทันทีค่ะ
Line : @delicake (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)
Line : @delicake

Line : @delicake

Related Posts