ทาร์ตไข่ชาไทย

Snack Box เมนูแนะนำ : ทาร์ตไข่ชาไทย

ทาร์ตไข่ชาไทย  เป็นขนมที่รวมความอร่อยของทาร์ตไข่แบบดั้งเดิมเข้ากับกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของชาไทยได้อย่างลงตัวค่ะ สูตรนี้จะเน้นไปที่ความนุ่มละมุนของไส้และแป้งทาร์ตที่กรอบหอม

สูตรทาร์ตไข่ชาไทย (Thai Tea Egg Tart)

ส่วนผสมสำหรับแป้งทาร์ต (Shortbread Crust):

• แป้งอเนกประสงค์: 1 ถ้วยตวงครึ่ง (ประมาณ 180-200 กรัม)
• เนยจืดเย็นจัด (หั่นเต๋าเล็กๆ): 1/2 ถ้วยตวง (ประมาณ 113 กรัม)
• น้ำตาลไอซิ่ง (หรือน้ำตาลทรายป่นละเอียด): 2-3 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
• เกลือ: 1/4 ช้อนชา
• ไข่แดง: 1 ฟอง (ไข่เบอร์ใหญ่)
• น้ำเย็นจัด: 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าจำเป็น)

วิธีทำแป้งทาร์ต:

1. ในชามผสมขนาดใหญ่ ใส่แป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลไอซิ่ง และเกลือ คนให้เข้ากัน
2. ใส่เนยเย็นจัดลงไป ใช้ปลายนิ้ว หรือ Pastry Blender บิเนยให้เข้ากับแป้งจนมีลักษณะคล้ายทรายหยาบ
3. ใส่ไข่แดงลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ถ้าแป้งยังไม่รวมตัวเป็นก้อน ให้เติมน้ำเย็นจัดทีละน้อย จนแป้งพอจับตัวกันได้ อย่าคนนานเกินไป เพราะจะทำให้แป้งเหนียว
4. รวบแป้งให้เป็นก้อนกลม ห่อด้วยพลาสติกแรป แช่ตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง เพื่อให้เนยเซ็ตตัวและแป้งคลายความเหนียว

ส่วนผสมสำหรับไส้ชาไทย (Thai Tea Custard Filling):

• น้ำเปล่า: 3/4 ถ้วยตวง
• ใบชาไทย (หรือชาไทยสำเร็จรูป): 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใช้ชาไทยสำเร็จรูปให้ดูสัดส่วนการชงจากซอง)
• น้ำตาลทราย: 1/4 ถ้วยตวง + 1 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
• ไข่ไก่: 2 ฟอง
• นมข้นจืด: 1/4 ถ้วยตวง + 1 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลลา (ถ้ามี): 1/2 ช้อนชา (ช่วยเพิ่มความหอม)

วิธีทำไส้ชาไทย:

1. ชงชาไทย: ต้มน้ำให้เดือด พอเดือดแล้วปิดไฟ ใส่ใบชาไทยลงไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที (ถ้าชอบเข้มข้นมากก็แช่นานขึ้น แต่ไม่ควรเกิน 10 นาที เพื่อไม่ให้ชามีรสขม) จากนั้นกรองแยกกากชาออก พยายามบีบน้ำชาออกจากใบชาให้มากที่สุด
2. ขณะที่ชายังร้อนอยู่ ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนจนน้ำตาลละลายจนหมด พักไว้ให้เย็นลงเล็กน้อย (อุ่นๆ ก็ได้ แต่อย่าร้อนจัด)
3. ในชามอีกใบ ตีไข่ไก่กับนมข้นจืดเบาๆ ให้เข้ากัน ไม่ต้องตีจนเป็นฟองมาก
4. ค่อยๆ เทน้ำชาไทยที่ชงไว้ลงในส่วนผสมไข่และนม คนเบาๆ ให้เข้ากันดี
5. เติมกลิ่นวานิลลา (ถ้าใช้) คนให้เข้ากัน
6. กรองส่วนผสมไส้ผ่านกระชอนตาถี่ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ได้ไส้ที่เนียนละเอียด ไม่มีฟองอากาศ

การประกอบและอบ:

1. เตรียมแป้ง: นำแป้งทาร์ตออกจากตู้เย็น คลึงแป้งให้เป็นแผ่นบางหนาประมาณ 1/4 นิ้ว (ประมาณ 0.5-0.7 ซม.)
2. ใช้พิมพ์ตัดแป้ง หรือใช้มีดตัดแป้งให้มีขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ทาร์ตเล็กน้อย (พิมพ์ทาร์ตขนาด 3 นิ้ว จะได้ประมาณ 12-15 ชิ้น)
3. กดแป้งลงในพิมพ์ทาร์ตให้ทั่วถึง ใช้ส้อมจิ้มก้นแป้งให้ทั่ว เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งพองตัวขณะอบ
4. อบแบบ Blind Bake (อบแป้งเปล่า):
   • วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175°C (350°F)
   • นำพิมพ์ทาร์ตที่กรุแป้งแล้วเข้าอบแบบ Blind Bake โดยวางกระดาษรองอบขนาดเล็กบนแป้งแล้วใส่เม็ดถั่ว หรือลูกเหล็กสำหรับอบ (Baking Beans) ทับลงไป อบประมาณ 15-20 นาที หรือจนแป้งเริ่มเป็นสีทองอ่อนๆ
   • นำออกจากเตา เอาเม็ดถั่ว/ลูกเหล็กและกระดาษรองอบออก แล้วทาน้ำไข่ (ไข่ไก่ตีผสมน้ำเล็กน้อย) ที่ก้นแป้งบางๆ เพื่อป้องกันไส้ซึม
   • ลดอุณหภูมิเตาอบลงเหลือ 160°C (325°F)
5. เติมไส้และอบ:
   • เทไส้ชาไทยที่กรองไว้ลงในแป้งทาร์ตที่อบไว้แล้ว ประมาณ 3/4 ของพิมพ์
   • นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 160°C (325°F) ประมาณ 25-35 นาที หรือจนไส้เซ็ตตัวดี (ลองเขย่าเบาๆ ตรงกลางไส้ควรจะอยู่ตัว ไม่เหลว) และขอบแป้งทาร์ตเป็นสีทองสวยงาม
   • เคล็ดลับ: หากไส้เริ่มพองตัวสูงขึ้นระหว่างอบ ให้แง้มประตูเตาอบเล็กน้อยจนไส้ยุบตัวลง แล้วปิดประตูเตาอบอบต่อ
6. นำทาร์ตออกจากเตา พักบนตะแกรงให้เย็นสนิทก่อนแกะออกจากพิมพ์

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• คุณภาพชาไทย: เลือกใช้ชาไทยที่มีคุณภาพดี จะทำให้ทาร์ตมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้น
• อย่าตีไข่แรง: การตีไข่แรงเกินไปจะทำให้เกิดฟองอากาศมาก ทำให้ไส้ทาร์ตมีเนื้อสัมผัสที่ไม่เรียบเนียน
• การกรองไส้: การกรองไส้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ไส้ทาร์ตเนียนนุ่ม
• การเก็บรักษา: ทาร์ตไข่ชาไทยที่อบเสร็จแล้วสามารถเก็บในภาชนะปิดสนิทในอุณหภูมิห้องได้ 1-2 วัน หรือแช่ตู้เย็นได้นานขึ้น 3-4 วัน ก่อนรับประทานควรนำมาพักให้คลายความเย็นหรืออุ่นเล็กน้อย

How to Order วิธีสั่ง Snack Box ขนมจัดเบรค กับ Delicake