ประวัติของช็อกโกแลตที่น่ารู้กว่าจะมาเป็นช็อคโกแลตในวันนี้ |Thailanddelicake

ประวัติของช็อกโกแลต

 

 

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมช็อกโกแลตถึงมีราคาแพง ? ช็อกโกแลตมีต้นกำเนิดมาจากที่ใด ? และใครเป็นคนค้นพบช็อกโกแลต ? วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ

จุดกำเนิดของช็อกโกแลต

ช็อกโกแลต เกิดขึ้นมาจากภูมิปัญญาของมนุษย์ในสมัยโบราณกว่า 2,000 ปีที่แล้วโน่น ตามหลักฐานเชื่อว่า เป็นชาวมายาและชาวแอซแทคแห่งอารยธรรมเมโสอเมริกา (หรือเมืองเม็กซิโก ซิตี้ในปัจจุบัน) ซึ่งแรกเริ่มเดิมที ชาวมายาได้ค้นพบว่า เมล็ดจากต้นคาเคา (Cacao) มีความลับที่น่าทึ่งซ่อนอยู่และสามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างไม่น่าเชื่อ

โดยครั้งแรกที่ชาวมายาค้นพบต้นคาเคาที่ป่าฝน และรู้ว่าต้นคาเคานี้สามารถนำมาทำอาหารได้ ชาวมายาได้นำเมล็ดคาเคามาทำเป็นเครื่องดื่ม ด้วยวิธีการนำเมล็ดคาเคามาบดให้ละเอียดแล้วนำไปผสมกับเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ที่มีในถิ่นกำเนิดจนได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติขมและค่อนข้างเฝื่อนขึ้นมา จากนั้นก็ได้พัฒนาเป็นอาหารอื่น ๆ ตามวิวัฒนาการของพวกเขา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่งเอามาก ๆ ในยุคนั้น พวกเขาจึงได้ให้ความหมายของคำว่า คาเคา (Cacao) เอาไว้ว่าเป็นอาหารแห่งเทพ จากนั้นชาวมายาเลยยกขบวนไปนำต้นคาเคาจากป่าฝนมาปลูกไว้ที่บ้านของตัวเองเสียเลย จากนั้นก็เก็บเมล็ดคาเคามาประกอบอาหาร เช่น นำไปหมัก คั่ว และบดให้เป็นเนื้อเหนียว ๆ ไว้สำหรับชงเป็นเครื่องดื่ม โดยนำไปผสมน้ำและเครื่องเทศ เช่น พริกไทย หรือแป้งข้าวโพด และนี่ก็เป็นจุดกำเนิดของเครื่องดื่มช็อกโกแลตนั่นเอง

 

จากเมล็ดคาเคากลายเป็นเครื่องบรรณาการ

ในช่วงราว ๆ คริสต์ศตวรรษที่ 14 หลังจากผลผลิตจากเมล็ดคาเคาได้ถือกำเนิดขึ้นและเริ่มมีคนจำนวนมากรู้แล้วว่า ต้นคาเคานั้นสามารถนำมาทำอาหารได้ ผลผลิตต่าง ๆ จากเมล็ดคาเคาก็เริ่มเข้าไปเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวแอซเทค (ในขณะนั้นเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอารยธรรมเมโสอเมริกา หรือเมืองเม็กซิโก ซิตี้ในปัจจุบัน) จึงได้เริ่มมีการซื้อขายเมล็ดคาเคากับชาวมายา จากนั้นช็อกโกแลตจากชาวมายาก็กลายเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของชาวแอซแทค ถึงขั้นที่ว่า ชาวแอซเทคมีการเรียกเก็บเมล็ดคาเคาเป็นเครื่องบรรณาการจากพลเมืองของตนและเชลยศึกแทนเงินเลยทีเดียว ซึ่งชาวแอซเทคนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลต นำมาผสมกับเครื่องเทศต่าง ๆ ให้มีรสชาติมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับชาวมายายุคแรก ๆ นั่นเอง

ซึ่งในเวลาต่อมาเครื่องดื่มช็อกโกแลตก็ถูกยกให้กลายเป็นเครื่องดื่มเฉพาะไฮโซเท่านั้น จะมีแค่พวกเชื้อพระวงศ์ ขุนนางที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ และพวกที่มีหน้ามีตาในสังคมเท่านั้นถึงจะได้ดื่มช็อกโกแลต และจะนำไปดื่มในช่วงที่มีสาระสำคัญ ๆ เท่านั้น หลังจากนั้นช็อกโกแลตจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่มีบทบาทสำคัญในพิธีพิเศษ ๆ ของราชวงศ์และพิธีทางศาสนา เมล็ดคาเคาในยุคนั้นเลยถูกใช้เป็นเครื่องสักการะเทพเจ้าไปโดยปริยาย

คำว่า “Chocolate” มาจากไหน ?

ว่ากันว่า คำว่า Chocolate มาจากภาษามายา หมายถึง การดื่มช็อกโกแลต เป็นการรวมกันของคำว่า “Chocol” ของชาวมายาที่แปลว่า “ร้อน” แล้วมาผสมกับคำว่า “atl” ของชาวแอซเทค แปลว่า “น้ำ” รวมกันเป็น “chocolatl” หรือ “ช็อกโกลาตส์” นั่นเอง ก่อนจะเพี้ยนมาเป็นคำว่า ช็อกโกแลต (Chocolate) ตามสำเนียงของชาวอังกฤษในช่วงต่อมานั่นเอง

ช็อกโกแลตก็ถูกประยุกต์จากรุ่นสู่รุ่นมาเรื่อย ๆ ให้กลายเป็นอาหารชนิดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้นในช่วง ปี ค.ศ. 1765 ในยุโรปและอเมริกาก็ได้เกิดโรงงานผลิตช็อกโกแลตจากเมล็ดคาเคาขึ้นหลายแห่ง ต่างมุ่งพัฒนาและประยุกต์ผลผลิตจากเมล็ดคาเคาจนกลายเป็นช็อกโกแลตที่มาในรูปแบบอื่น ๆ เช่น นมช็อกโกแลต ช็อกโกแลตแบบแท่ง ฯลฯ จนมาถึงผลิตภัณฑ์จากช็อกโกแลตมากมายนับไม่ถ้วนในปัจจุบันนี้นี่เอง

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและสาระดีจาก http://cooking.kapook.com/view111995.html

Posted in บทความ.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น